หนังสือพิมพ์ บางกอกโพสต์ ได้ ผ่านร้อนผ่านหนาวและ ยังคงยืนหยัดเสนอข่าวสารอย่าง กว้างขวางและลึก แก่ผู้อ่านตลอด ไป ด้วยส่วนต่างๆ ที่ประกอบกัน เป็น หนังสือพิมพ์ บางกอกโพสต์

พ.ศ. 2543 เป็นปีแห่งเหตุการณ์สำคัญสำหรับวงการ
หนังสือพิมพ์ และบางกอกโพสต์ยังคงดำรงรักษาชื่อ
เสียงในการรายงานข่าวและการวิเคราะห์เหตุการณ์ ทั้งในและต่างประเทศ อย่างเที่ยงตรง ถี่ถ้วน และทันต่อเหตุการณ์ด้วยระบบการจัดทำหน้าข่าวใหม่ล่าสุด ที่ผ่านการทดสอบ วายทูเค อย่างสมบูรณ์แบบ จึงทำให้หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์สามารถ ตอบสนองผู้อ่านด้วยการเสนอข่าวสำคัญๆ ได้ อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ได้รับมอบหมายให ้
รายงานข่าวประจำวันในงาน บีโอไอแฟร์ พร้อมทั้งมีหน้าที่จัดการแสดงภาค ภาษาอังกฤษในงานทุกวัน ในขณะเดียวกันเราได้เฝ้าติดตามการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (อังค์ถัด) อย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถรายงาน
ข่าวได้ครอบคลุมทุกมิติการประชุมอังค์ถัดที่กรุงเทพฯจัดขึ้นหลังความวุ่นวายของการประชุมองค์การการค้าโลกที่กรุงซีแอตเติลไม่นานนัก ความวุ่นวายดังกล่าวเกิดขึ้นจากสมาชิกองค์กรเอกชนหลายองค์กรได้ออกมาประท้วงเพื่อต่อต้านกระแส และผลกระทบจากโลกาภิวัฒน์

โลกาภิวัตน์ส่งกระแสและผลกระทบมายังประเทศไทยอย่างเต็มที่ ทำให้เรายังคงฟื้นตัวด้วยความยากลำบาก จากการล่มสลายทางเศรษฐกิจ ที่เริ่มขึ้นในปี พ.ศ. 2540 โลกาภิวัฒน์ การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ รวมถึงการผลักดันนโยบายเศรษฐกิจแบบพอเพียง และการพัฒนาแบบยั่งยืนได้กลายเป็น หัวข้อสำคัญที่ได้รับการถกเถียงมาอย่างต่อเนื่องตลอดปี พ.ศ. 2543

ที่สำคัญไปกว่านั้น ปี พ.ศ. 2543 ได้กลายเป็นเส้นแบ่งยุคสมัยสำหรับประเทศไทย เพราะเป็นครั้งแรกในหลายทศวรรษที่มีการถกกันถึงแนวทางด้านการเมือง และเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต และยังเป็นปีที่มีความสำคัญอย่างที่ต้องจารึกไว้ใน ประวัติศาสตร์ เพราะปีนี้เป็นปีแห่งการเลือกตั้ง อย่างแท้จริง นับตั้งแต่การเลือกตั้งวุฒิสมาชิก เลือกตั้งผู้ว่าการกรุงเทพมหานคร และการเลือกตั้ง ทั่วไป ซึ่งได้กระทำอย่างต่อเนื่อง จนมาสิ้นสุดเมื่อต้น ปี พ.ศ. 2544 นี่คือช่วงเวลาที่เราได้ทดลองใช้
รัฐธรรมนูญฉบับใหม่เป็นครั้งแรก

บางกอกโพสต์เจาะเหตุการณ์สำคัญทั้งหมดนี้อย่างลึกยิ่งกว่าที่เคยนอกจากการครอบคลุมประเด็นการเมืองที่ซับซ้อนทุกแง่ทุกมุม
แล้ว เรายังได้ใช้ความพยายามที่เปี่ยมด้วยจิตสำนึก เข้าเพ่งเล็งถึงปัญหาสำคัญๆ ตามหลักการ ใคร อะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ ทำไม และอย่างไร
ทีมงานข่าวในประเทศ ข่าวธุรกิจ และเอาท์ลุค จัดการเสวนาโต๊ะกลม โดยเชิญผู้แทนพรรคการเมืองต่างๆ เข้าร่วมเสนอและตอบ คำถามทั้งใน
เรื่องเกี่ยวกับนโยบายของพรรค และวิธีที่จะนำนโยบายไปปฏิบัติให้เกิดผล ความสนใจของเรามิได้จำกัดเฉพาะเรื่องราวทางเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงปัญหาสำคัญๆ ในสังคมส่วนรวมด้วย และเพื่อเพิ่มมิติให้กับข่าวประจำวันในปีแห่งการเลือกตั้งโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่
จะเข้าสู่การเลือกตั้งทั่วไปในปี พ.ศ. 2544การเสวนาของเราจึงผนวกด้วยการสัมภาษณ์อย่างถึงแก่นกับผู้นำทางการเมืองและผู้มีบทบาทในการ
ตัดสินใจหลายท่าน ที่เด่นที่สุดในช่วงเกาะติดการเลือกตั้งของบางกอกโพสต์ คือ การเปิดประชุมว่าด้วยเรื่องเศรษฐกิจประจำปี (Annual Economic Review Forum) ซึ่งจัดขึ้นในเดือนสิงหาคม ณ ศูนย์การประชุมสหประชาชาติเป็นการประชุมที่ใช้เวลาหนึ่งวันภายใต้หัวข้อ "What Next" โดยมีวัตถุประสงค์ให้ผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 500 คน ซึ่งเป็นนักธุรกิจทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ได้เห็นภาพที่ชัดเจนของการเมืองและเศรษฐกิจของประเทศไทยในอนาคต

บุคคลสำคัญที่ขึ้นกล่าวคำปราศรัยในที่ประชุม ได้แก่ นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรีขณะนั้น นายธารินทร์ นิมมานเหมินท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังขณะนั้น นายมีชัย วีระไวทยะ วุฒิสมาชิก นายมนู ภัสการันย์ นักเศรษฐศาสตร์ และดร.ทักษิณ ชินวัตร ผู้เข้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีขณะนั้น นอกจากนี้ ยังมีการจัดกลุ่มเสวนาห้ากลุ่ม ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมอาหารกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและโทรคมนาคม กลุ่มยานยนต์ กลุ่มธนาคาร และการเงิน และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์โดยมีนักธุรกิจระดับแนวหน้าในแต่ละสาขาเข้าร่วมกิจกรรม การประชุมครั้งสำคัญดังกล่าวประสบความสำเร็จ และคาดว่าจะจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีเพื่อเป็นเวทีให้ผู้นำในภาครัฐบาลได้พบปะกับภาคธุรกิจไทย เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับทิศทางของประเทศในอนาคต เมื่อมองไปข้างหน้า เราเห็นว่า ปี พ.ศ. 2544 จะเป็นปีที่มีความท้าทาย และเต็มไปด้วยความหวัง แม้ว่าวิกฤตเศรษฐกิจยังคุกรุ่นอยู่ แต่หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ได้ผ่านร้อน ผ่านหนาว และยังคงยืนหยัดเสนอ ข่าวสารอย่างกว้างขวางและลึกแก่ผู้อ่าน ตลอดไป ด้วยส่วนต่างๆ ที่ประกอบกันเป็นหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์

ปี พ.ศ. 2544 เป็นอีกปีหนึ่งที่เราเริ่มเสนอเนื้อหาใหม่ที่จะทำให้เราโดดเด่นและมีบทบาทที่ชัดเจนในความเป็นหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษชั้นนำ ของประเทศ และเป็นหนังสือพิมพ์ที่ได้รับความเชื่อถือมากที่สุดในภูมิภาค