เรียน ผู้ถือหุ้นของ บริษัท โพสต์ พับลิชชิง จำกัด (มหาชน)

ในปีที่ผ่านมา ธุรกิจสื่อต่างๆ ในประเทศไทยประสบกับปัญหาในการดำเนินธุรกิจเป็นอย่างมาก ดังจะเห็นได้จากผลประกอบการ ในปี พ.ศ. 2548

การเติบโตของรายได้หยุดชะงักลงในช่วงปีที่ผ่านมา โดยมีสาเหตุส่วนใหญ่มาจากความผันผวนทางธุรกิจอันเป็นผลเนื่องมาจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์ที่ซบเซาเช่นนี้รายได้หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ และ โพสต์ ทูเดย์ ถึงแม้จะไม่มียอดตัวเลขเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังสามารถแสดงผลประกอบการที่ดีกว่าผู้ประกอบการรายอื่นในวงการสื่อสิ่งพิมพ์ด้วยกัน

ในขณะเดียวกัน ราคาของกระดาษหนังสือพิมพ์ก็ถีบตัวสูงขึ้นเป็นอย่างมาก ทำให้ยอดต้นทุนในการซื้อกระดาษเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 25

ฝ่ายบริหารได้ออกมาตรการควบคุมค่าใช้จ่ายทั่วทั้งบริษัทฯ ควบคู่ไปกับนโยบายปรับปรุงโครงสร้างของพนักงาน ซึ่งแม้ว่าจะทำให้มีค่าใช้จ่ายสูงในปีที่ผ่านมา แต่ก็จะให้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นในปี พ.ศ. 2549 และปีต่อๆ ไป

ยอดจำหน่ายของหนังสือพิมพ์ทั้ง 2 ฉบับ เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะยอดขายของหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ที่เพิ่มสูงขึ้น เป็นประวัติการณ์ ในขณะเดียวกันเราก็เชื่อว่า หนังสือพิมพ์โพสต์ ทูเดย์ มียอดขายและยอดผู้อ่านเป็นอันดับหนึ่งใน กลุ่มหนังสือพิมพ์ธุรกิจ จึงนับเป็นความสำเร็จที่น่าพอใจเป็นอย่างยิ่ง

ในด้านการก่อสร้างโรงพิมพ์ใหม่บนถนนบางนา-ตราดนั้น มีความคืบหน้าและจะแล้วเสร็จภายในกลางปี พ.ศ. 2549 บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถเปิดดำเนินการโรงพิมพ์ที่พร้อมด้วยเครื่องพิมพ์ที่มีความเร็วสูงและคุณภาพการพิมพ์เป็นเยี่ยม ก่อนสิ้นปี พ.ศ. 2549

การจัดซื้ออุปกรณ์หลักที่จะนำมาใช้ในโรงพิมพ์แห่งใหม่ของบริษัทฯ ได้ดำเนินการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รวมทั้งอุปกรณ์การพิมพ์ ที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดในการส่งหน้าข้อมูลผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์โดยตรงไปยังระบบแม่พิมพ์ (Computer-to-Plate) ซึ่งเป็น กระบวนการที่รวดเร็วและคุ้มค่าใช้จ่ายมากกว่าระบบดั้งเดิม

สถานการณ์ทางการเมืองที่ผันผวนอย่างต่อเนื่องนี้มีผลกระทบต่อธุรกิจสื่อทั่วไป แต่ด้วยการใช้มาตรการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่าง รัดกุม โดยเฉพาะในด้านจำนวนพนักงาน และการระดมแนวความคิดใหม่ในการเพิ่มรายได้ จะทำให้บริษัทฯ ก้าวสู่ปี พ.ศ. 2549 อย่างมั่นใจ

คณะกรรมการบริษัทฯ ขอขอบคุณพนักงานทุกๆ ท่าน ในความซื่อสัตย์ ความร่วมมือ และความทุ่มเทที่ให้เป็นอย่างดีเสมอมา

ท้ายที่สุดนี้ คณะกรรมการบริษัทฯ มีความยินดีที่จะเสนอให้มีการจ่ายเงินปันผลงวดสุดท้ายของปีจำนวน 0.16 บาทต่อหุ้น ซึ่งทำให้ยอดเงินปันผลรวมของปี พ.ศ. 2548 เท่ากับ 0.24 บาทต่อหุ้น